ย่อมเล็งเห็นผลหรือไม่

[พงส.แอ็บแบ๊ว]

พี่น้องครับ ช่วยน้องด้วย
เครียดอีกแล้ว ช่วยวิเคราะห์กันหน่อย เรื่องมีอยู่ว่า ในช่วงระหว่างเกิดเหตุ ผู้ตายได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทชกต่อยกับกลุ่มวัยรุ่นคู่อริ แต่ไม่สู้ไม่ได้จึงได้วิ่งหนี โดยมีวัยรุ่นคู่อริวิ่งไล่ตาม ปรากฏว่าขณะที่กำลังวิ่งหนีผู้ตายได้พลักตกลงคลองน้ำซึ่งมีความลึกเพียงแค่หัวเข่า พอเห็นผู้ตายตกน้ำกลุ่มวัยรุ่นคู่อริก็ไม่คิดที่จะตามลงไปทำร้าย และได้พากันหลบหนีไป ต่อมามีผู้พบศพผู้ตายอยู่ในน้ำ และแพทย์ได้ทำการชันสูตรพลิกศพแล้วมีความเห็นว่าผู้ตายจมน้ำตาย อยากทราบว่ากรณีดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องการย่อมเล็งเห็นผลหรือไม่ ช่วยตอบทีครับ ( ปล.หากมีฏีกาเทียบเคียงมาด้วย ถือว่าเด็ดดวงมาก)

ลิงก์ผู้สนับสนุน Sponsored Links

[นศ.ปี2]

น่าจะมีเพียงเจตนาทำร้ายมากกว่านะ คงน่าจะรับผิดฐานทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแกความตายมากกว่า และการตายก็น่าจะเป็นผลธรรมดาที่ย่อมเกิดขึ้นได้ตาม ป.อ.290ปรอบกอบกับ63
คงไม่น่าเข้าเล็งเห็นผลเพราะถ้าเข้าเล็งเห็นผล ก็ต้องในกรณีที่วิ่งไล่ทำร้ายโดยที่สามารถคาดเห็นได้ว่าน้ำข้างหน้าเป็นน้ำลึก ถ้าวิ่งไล่แล้ว ผู้ตายก็ต้องตกลงไปอย่างแน่แท้ แต่ก็ยังกระทำโดยไม่ใยดีต่อผลที่เกิดขึ้น

*************
ไม่แน่ใจว่าถูกหรือเปล่า

[นศ.ปี2]

มันมีอยู่ในหนังสือฎีกาพิศดารครับพี่ ผมจำเลขไม่ได้แต่เคยนั่งท่องอยู่ ในฎีกามันไม่เป๊ะเหมือนในข้อเท็จจริงครับ แต่มันแนวใกล้เคียง

[พี่เผ่า]

ผิด มิได้มีเจตนาฆ่า แต่ทำร้ายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตาม ปอ.มาตรา290 เป็นผลโดยตรงจากการทำร้ายมิใช่ผลธรรมดาตามมาตรา 63 แต่อย่างใด และยังห่างไกลเจตนาย่อมเล็งเห็นผลฐานฆ่าผู้อื่น

[บุคคลทั่วไป]

รีบฟันธงกันเกินไป ยังไม่รู้รายละเอียดมากนักเท่าใด ถ้าพฤติการณ์แห่งการณ์ทำร้ายนั้น ร้ายแรง(ทุบตีบริเวณศีรษะหลายครั้ง) วิญญูชนทั่วไปญ่อมเล็งเห็นว่าผู้ถูกทำร้ายอาจหมดสติได้ และจมอยู่ในน้ำ จนเป็นเหตุให้จนน้ำถึงแก่ความตายได้ก็เป็นเจตนาฆ่าได้..........

[เทพธันเดอร์นครปฐม]

ปัญหาตามกระทู้ต้องใช้ ม.63 ป.อาญา พิจารณา
ในกรณีที่ผลบั้นปลายมิได้เกิดจากาการกระทำของผู้กระทำโดยตรง แต่เกิดจาก “เหตุแทรกแซง” ผู้กระทำจะต้องรับผิดในผลบั้นปลายก็ต่อเมื่อเหตุแทรกแซงเป็นสิ่งที่คาดหมายได้ หากคาดหมายไม่ได้ ผู้กระทำก็ไม่ต้องรับผิดในผลบั้นปลาย แต่รับผิดเพียงเท่าที่ตนกระทำไปแล้ว ก่อนเกิดมีเหตุแทรกแซงนั้น เช่น แดงไล่ยิงดำ ดำวิ่งหนีและถูกฟ้าผ่าตาย หากถือว่าฟ้าผ่าคือเหตุแทรกแซงที่คาดหมายไม่ได้ แดงก็ไม่ต้องรับผิดในความตายของดำตาม ม.288 แต่สิ่งที่แดงกระทำไปแล้วก่อนเกิดฟ้าผ่า คือไล่ยิงดำ แดงจึงผิด ม.288 +80
ในการวินิจฉัยว่าผู้กระทำคาดหมายได้หรือไม่ ต้องใช้มาตรฐานของบุคคลสามัญหรือวิญญูชนนั้นเอง “คาดหมายได้” ไม่จำต้องถึงขนาด “เล็งเห็นผล”
เหตุแทรกแซงที่คาดหมายได้คือ เหตุตาม ทฤษฎีเหตุที่เหมาะสม” นั่นเอง
กรณีตามกระทู้ การที่ผู้ตายวิ่งหนีลงไปในคลองซึ่งมีน้ำท่วมแค่หัวเข่าแล้วจมน้ำตาย นั้น การจมน้ำตายถือเป็นเหตุแทรกแซง แต่จะเป็นเหตุแทรกแซงที่คาดหมายได้ หรือ คาดหมายไม่ได้ ก็ต้องพิจารณาอีกรอบหนึ่ง
หากคาดหมายได้ ผู้กระทำก็ต้องผิด 288 หากคาดหมายไม่ได้ ผู้กระทำก็รับผิเดเพียงเท่าที่เกิดก่อนมีเหตุแทรกแซง
กรณีตามกระทู้น่าจะคาดหมายไม่ได้ เพราะน้ำแค่หัวเข่า ใครจะไปคิดว่าจมน้ำตาย

[ขอร่วมจอย]

อ่านคำตอบของท่านเทพ ธันเดอร์ แล้ว เหมือนถอดออกมาจากคำบรรยายกฏหมายวิอาญา ของ อ.ฐานิสร์ ฯจังเลย
แต่ผมเห็นด้วยนะ การอ้างอิงข้อกฏหมายโดยยึดหลักจากตำรา
มาชี้แจงให้ทราบ ย่อมมีเหตุผลเช่อถือได้ แต่การฟันธงโดยไม่อ้างอิงอะไร ก็ไร้ความหมาย ไม่ได้ความรู้เลย ขอซูฮกท่านเทพ ฯหวังว่า คงเป็นท่พึ่งของพรรคพวกตลอดไป อ้อ ช่วยติดตามเร่อง สบ.4 ร่น 2 ด้วยนะ เงียบจังเลย ถูกดองไว้ท่ไหนก็ไม่รู้

[นิติน้อย]

[/img]ตามความคิดผมไม่เป็นการเล็งเห็นผล เคยมีแนวฏีกาอยู่เหมือนกันกรณีที่ ต.ร. ติดตามจับกุมผู้กระทำผิดแล้วผู้กระทำผิดโดดตึกหนีแล้วตายถือว่า ต.ร.ไม่ผิดฐานใดๆ เอามาจากหนังสือของพ.ต.อ กู้เกียรติ พงส.สบ.4 อ.โรงเรียนนายร้อยตำรวจ[/quote][/b]

[M2551]

เรื่องมีอยู่ว่า นายเอฯ กับนายบีฯ มีเรื่องไม่พอใจกันมาก่อน ถึงวันเกิดเหตุ ขณะนายเอฯ นั่งดื่มสุราอยู่ริมถนน กับพวก 2-3 คน นายบีฯ ได้ขับรถจักรยานยนต์ผ่านพอดี จึงได้จอดรถห่างจากนายเอฯ ประมาณ 20 เมตร แล้วโทรแจ้งให้พักพวกเอามีดดาบมาให้ เมื่อนายบีฯ ได้รับมีดดาบแล้ว ก็วิ่งจะมาฟันนายเอฯ แต่นายเอฯ มองเห็นเสียก่อนจึงได้วิ่งหนีไป และได้มาแจ้งความให้ดำเนินคดีกับนายบีฯ ข้อหา พยายามฆ่า พงสฯ ควรจะทำอย่างไร จะผิดข้อหาอะไร ช่วยตอบที ขอบคุณครับ

[สากกะเบือ3]

ท่านเทพฯสมกับเป็นอาจารย์จริงๆ...