ใครรู้ช่วยตอบหน่อย

[ปวดหัวจริง]

ข้อเท็จจริงและปัญหา

1. เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2548 พนักงานสอบสวน สภ.พระพรหม จว.นศ. รับคำร้องทุกข์ไว้ทำการสอบสวนดำเนินคดีกับ นาย อ. ผู้ต้องหา ในความผิด ุกรุกเข้าไปในเคหสถานเพื่อกระทำ
อนาจา รฯลฯ เหตุเกิด ที่ ตำบลช้างซ้าย อำเภอพระพรหม จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2548 พนักงานสอบสวนเนินการสอบสวนจนเสร็จสิ้นแล้วมีความเห็นควรสั่งฟ้อง
ผู้ต้องหา และขอศาลออกหมายจับและตำหนิรูปพรรณไว้ประกาศสืบจับ ส่งสำนวนไปยังพนักงานอัยการฯ เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2548
2. ต่อมา ได้มีประกาศ ตร.เรื่องการกำหนดหน่วยงานและเขตอำนาจ
ความรับผิดชอบหรือเขตพื้นที่การปกครองของส่วนราชการในสังกัด
กองบัญชาการและตำรวจภูธรภาค 1 ถึง 9 ลง 11 กันยายน 2550 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ วันทึ่ 26 ตุลาคม 2550 เป็นต้นไป เป็นเหตุให้ ตำบลช้างซ้ายซึ่งเคยเป็นเขตอำนาจสอบสวนของ พงส.สภ.พระพรหม โอนไปเป็นเขตอำนาจสอบสวน สภ.ชะเมา อ.เมือง จว. นศ. พนักงานสอบสวน สภ.พระพรหม จึงไม่มีอำนาจสอบสวนความผิดที่ได้เกิด หรือ้าง หรือเชื่อว่าเกิดในพื้นที่ ต.ช้างซ้าย นับแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2550 อีกต่อไป
3. ต่อมาวันที่ 25 มี.ค.2551 เจ้าพนักงานตำรวจได้ทำการจับกุมตัว
ผู้ต้องหาดังกล่าวตามข้อ 1 นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.พระพรหม ดำเนินคดีตามกฎหมาย
4. ปัญหา คือ ภายหลังจากที่พนักงานสอบสวน สภ.พระพรหม รับตัวผู้ต้องหาดังกล่าวไว้แล้ว มีความเห็นว่าพนักงานสอบสวน สภ.พระพรหม ไม่มีอำนาจสอบสวนผู้ต้องหาในคดีนี้อีกต่อไปแล้ว
ตาม นัย ประกาศ ตร. ตาม ข้อ 2 จึงได้ส่ง สำนวนการสอบสวนพร้อมผู้ต้องหาดังกล่าวไปให้ พนักงานสอบสวน สภ.ชะเมา เพื่อสอบสวน ดำเนินการต่อไป แต่ สภ.ชะเมา เห็นว่า พนักงานสอบสวน สภ. ชะเมา ะมีอำนาจสอบสวนในความผิดที่ได้เกิดขึ้น
หรืออ้าง หรือเชื่อว่า ได้เกิดขึ้นภายในเขตนตำบลช้างซ้าย นับแต่วันที่ 26 ต.ค.2550 ซึ่งเป็นวันที่ประกาศ ตร. ตามข้อ 2 มีผลใช้บังคับ จึง ไม่ยอมรับสำนวนการสอบสวนและผู้ต้องหาดังกล่าว
5. จากกรณีปัญหาดังกล่าวข้างต้น พนักงานสอบสวนท้องที่ใดจะมีอำนาจ
ทำการสอบสวนผู้ต้องหาส่งพนักงานอัยการดำเนินคดี ระหว่าง สภ.พระพรหม กับ สภ.ชะเมา

ข้อคิดเห็นเบื้องต้น....

กรณีตามปัญหา.....การสอบสวน ที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
มาตรา 120 ต้องสอบสวนโดย พนักงานสอบสวนดังที่ระบุไว้ใน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 1 (6) ประกอบด้วยมาตรา 18

ลิงก์ผู้สนับสนุน Sponsored Links

[พงส.ผู้น้อง]

ความเห็นครับ...
๑.พงส.ผู้รับผิดชอบน่าจะยังเป็น สภ.พระพรหม เป็นผู้รับผิดชอบตามเดิม เพราะขณะความผิดเกิด...ได้เกิดขณะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตอำนาจ//เพราะถ้าถือเอาการเขตอำนาจฯใหม่ก็เท่ากับว่า.การสอบสวนสำนวนเดิมไม่ชอบเสียทั้งหมด..เพราะได้ถือว่าไม่อยู่ในเขตอำนาจ..มิต้องสอบสวนใหม่หมดหรืออย่างไร...ความเห็นครับ

[magine]

ท่านก็ส่งเรื่องให้ผู้ว่าราชการชี้ขาดซิครับ

กันตัวไว้ เพราะเรื่องนี้มีการโต้แย้งเรื่อง พงส.ผู้รับผิดชอบ

เป็นอำนาจของผู้ว่าราชการที่จะชี้ขาด

[เจดีย์กลางน้ำ]

1.เขตอำนาจการสอบสวนตาม ป.วิ.อาญา ม.18 พนักงานสอบสวนมีอำนาจการสอบสวนคดีที่เกิด อ้าง เชื่อ อยู่ จับ ในเขตอำนาจของตน ตามที่มีประกาศ ตร. เมื่อเขตอำนาจเปลี่ยนไป อำนาจของพนักงานสอบสวนก็ย่อมเปลี่ยนไปเช่นกัน
2.พนักงานสอบสวน สภ.พระพรหม ย่อมหมดอำนาจการสอบสวนไปอันเนื่องจากประกาศเปลี่ยนแปลงเขตอำนาจการสอบสวน พนักงานสอบสวน สภ.ชะเมา กลับเข้ามาอำนาจการสอบสวนแทนในพื้นที่มีกำหนดเพิ่มเติมเข้ามา
3.การสอบสวนเพิ่มเติม(หลังจากที่เดิมได้มีการสอบสวนจนสำนวนการสอบสวนเสร็จสิ้นไปแล้ว) เป็นการสอบสวนคดีที่เกิดขึ้นในท้องที่ สภ.ชะเมา (ปัจจุบัน) พนักงานสอบสวน สภ.ชะเมา เป็นพนักงานสอบสวนที่มีอำนาจที่จะต้องทำการสอบสวนต่อไป เพราะ พนักงานสอบสวน สภ.พระพรหม หมดอำนาจไปแล้ว
4.การสอบสวนต้องทำโดยพนักงานสอบสวนผู้มีอำนาจ และ เป็นพนักงานสอบสวนผุ้รับผิดชอบ (ยกเว้นกรณีส่งประเด็นไปสอบสวน) มิฉะนั้นจะกลายเป็นการสอบสวนมิชอบ และนำไปสู่การตัดอำนาจฟ้องของพนักงานอัยการ ไม่อาจฟ้องได้ตาม ป.วิ.อาญา ม.120
5.ประการสุดท้าย กรณีไม่แน่ว่าพนักงานสอบสวนคนใด เป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ ในจังหวัดเดียวกัน ให้ผู้ว่าราชการเป็นผู้มีอำนาจชี้ขาด
เมื่อผู้ว่าชี้ขาด ปัญหาว่าการสอบสวนมิชอบ อันเนื่องจากสอบสวนโดยพนักงานสอบสวนที่ไม่มีอำนาจนั้นก็จะหมดไป พนักงานสอบสวนพื้นที่ใดที่ผู้ว่าชี้ขาดให้ทำการสอบสวน ย่อมเกิดอำนาจการสอบสวนโดยชอบตามกฎหมายขึ้นทันที

ความเห็นนี้เป็นความเห็นส่วนตัว หากยังประโยชน์แก่ผู้อ่านบ้าง ขอยกความดีให้กับบิดามารดาของข้าพเจ้า หากมีข้อบกพร่องข้าพเจ้าขอรับไว้เพียงผู้เดียว.......ขอบคุณ

[หอยสนามบิน]

ทางแก้ง่ายๆ และไม่ยุ่งยาก เสนอให้ ผบก.ออกคำสั่งแต่งตั้งพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนของ ภ.จว. ๆ ก็แต่งตั้ง พงส.ฯคนเดิมนั่นแหละทำสำนวนในนาม กก.

[เทพธันเดอร์นครปฐม]

สภ.ชะเมา ควรรับผิดชอบสำนวนนี้
หลัง ๒๕ ต.ค.๕๐ สภ.พระพรหม ไม่มีอำนาจสอบสวนคดีที่เกิดในเขต สภ.ชะเมาแล้ว เพราะไม่มีเขตอำนาจ หากพูดว่า สภ.พระพรหม รับผิดชอบมาแต่ต้นแล้ว ก็ต้องทำให้จบ มันจะไม่โกลาหลกันหรือครับ พื้นที่เดียวกันแต่มี ๒ สภ.รับผิดชอบ ดูแปลกๆ
แม้แต่สำนวนที่อยู่ระหว่างสอบสวน ก็ต้องโอนมาให้ สภ.ใหม่ทำเลยครับ
ในเขต จ.นฐ. ถ.เพชรเกษม ถ.บรมราชชนนี เดิมทางหลวงรับผิดชอบสอบสวน ต่อมาโอนให้ตำรวจท้องที่ พงส.ทางหลวง ต้องรีบทำให้เสร็จจนหมด เพราะหากไม่เสร็จ ต้องโอนมาให้ท้องที่ทำ
สรุป สภ.ชะเมา ควรต้องรับสำนวนจาก สภ.พระพรหม ไปดำเนินการต่อครับ เพราะ สภ.พระพรหม ไม่มีอำนาจแล้ว ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อยุติปัญหา ส่งเรื่องให้ ผวจ.นศ.ชี้ขาด พงส.ผู้รับผิดชอบ ไปเลย

เรียนเชิญ สภ.ไหน ที่มีการแบ่งเขตอำนาจสอบสวน มาชี้แจงแถลงไขให้ จขกท.ได้มีความรู้หน่อยเถอะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

[พงส์]

เห็นด้วยที่ว่า สภ.ชะเมา ต้องยอมรับสำนวนจาก สภ.พระพรหม มาทำต่อ เพราะ สภ.พระพรหม ปัจจุบันไม่มีอำนาจเหนือท้องที่เกิดเหตุในคดีนี้ไปแล้ว ท้องที่เกิดเหตุโอนไปอยู่ในอำนาจของ สภ.ชะเมา

ส่วนการเปลี่ยนแปลงเขตอำนาจไม่ทำให้การสอบสวนของสภ.พระพรหมที่ชอบด้วยกฎหมายตามเขตอำนาจเดิม กลายเป็นไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่ การสอบสวนเดิมยังคงใช้ได้อยู่ หากเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเขตอำนาจแล้ว หากสภ.พระพรหม ยังคงสอบสวนอยู่จะทำให้การสอบสวนที่ทำต่อมาหลังเปลี่ยนเขต เป็นการสอบสวนที่ไม่ชอบ

เพื่อทำให้การสอบสวนชอบด้วยกฎหมายทั้งหมด มีหนทางทำได้อยู่ทางเดียว คือ สภ.ชะเมา ผู้รับผิดชอบเขตพื้นที่ตามประกาศใหม่ ต้องรับสำนวนมาสอบสวนต่อ และต้องถือว่า มีอำนาจสอบสวนตามวิ.อ.18 เพราะเหตุเกิดในเขตอำนาจแล้ว กฎหมายไม่ได้บอกว่าเหตุเกิดเมื่อใด บอกเพียงว่า เมื่อเหตุเกิดท้องที่ใด พงสฯท้องที่นั้นมีอำนาจสอบสวน

ตัวอย่าง วันนี้ 27 มี.ค.51 ตำรวจศูนย์ปราบรถที่กรุงเทพออกข่าวยึดรถไว้ตรวจสอบหลายราย ปรากฎว่า มีรถของนาย ก.ที่ถูกคนร้ายลักไปจากบ้าน ที่ต.บางซ้าย ตั้งแต่ปี 2548 ขณะเกิดเหตุนาย ก.ไม่ได้ไปร้องทุกข์ไว้กับพงสฯสภ.พระพรหม ท้องที่เกิดเหตุเสียด้วย

พอนายก.ทราบข่าว อยากจะไปเอารถที่หายไปคืนมา จึงได้ไปพบ พงสฯ สภ.ชะเมา ซึ่งเป็นท้องที่รับผิดชอบ ต.บางซ้ายใน ปัจจุบัน แล้วแจ้งความประสงค์ขอร้องทุกข์ให้ดำเนินคดี และให้พงสฯไปเอารถที่หายไปมาเป็นของกลาง พงสฯ สภ.ชะเมา ก็ต้องรับคำร้องทุกข์สอบสวนดำเนินคดีไป จะมาอ้างว่า เหตุคดีเกิดขึ้นขณะที่ยังไม่ได้รับผิดชอบต.บางซ้าย ถ้าจะโยนให้ ผู้เสียหายไปแจ้งที่ สภ.พระพรหม รับรองได้เลยว่า พงสฯสภ.ชะเมาต้องโดน 157 แน่ ๆ

อนึ่งเรื่องทำนองนี้ ไม่ใช่เพิ่งมีปัญหา เขามีปัญหากันมานานแล้วจน ตร. ต้องออกหนังสือเวียนกำชับการปฏิบัติ

หนังสือ ตร ที่ 610.04 / 11921 ลง 3 ธันวาคม 2530 เรื่องซักซ้อมการปฏิบัติเกี่ยวกับอำนาจการสอบสวนของ สภ.ต.ตั้งใหม่
สรุปใจความสำคัญว่า เมื่อจัดตั้ง สภ.ต.ขึ้นใหม่โดยแยกพื้นที่รับผิดชอบออกจากเขต สภ.อ.แล้ว พงส.ฯสภ.อ.ย่อมไม่มีอำนาจที่จะสอบสวนคดีที่ยังไม่เสร็จให้เสร็จสิ้นต่อไปได้ จึงต้องมอบสำนวนให้ สภ.ต.ที่ตั้งใหม่ทำการสอบสวนต่อไป (พล.ต.อ.แสวงฯอ.ตร.ลงนาม)

อนึ่งแม้ว่า หนังสือเวียนจะเป็นกรณีสภ.ตั้งใหม่ที่แยกมาจาก สภ.อ.ก็ตาม แต่ก็พอเทียบเคียงกันได้ในเรื่องของเขตอำนาจสอบสวน

สรุปฟันธง สภ.ชะเมา ต้องรับสำนวนมาสอบสวน

ทางออกที่ดีที่สุดตอนนี้ คงไม่ต้องไปถึงผู้ว่าฯ หรอก แค่ สภ.พระพรหม ทำความเห็นเสนอ ผบก.ไปตามนี้ รับรองได้เลยว่า ผบก.ต้องสั่งการให้ สภ.ชะเมา รับผิดชอบทำการสอบสวนต่อไปแน่แน่

[พงส.จชต.]

จากประสบการณ์ สภ.ใหม่รับผิดชอบคดีที่เกิดขึ้นตั้งแต่มีอำนาจสอบสวนเท่านั้น คดีเก่ามีหมายจับก็อยู่ที่ สภ.เดิม เมื่อจับกุมได้ สภ.เดิมก็สอบสวนไปเพราะขณะเกิดเหตุมีอำนาจสอบสวนอยู่ก็ต้องดำเนินการต่อไปได้เหมือนศาลที่คดีอยู่ในศาลแล้วก็จะต้องดำเนินการไปจนเสร็จสิ้นแม้จะมีศาลตั้งใหม่ขึ้นมาก็ไม่ได้โอนสำนวนไป(แม้จะเป็นไปโดยกฎหมายจัดศาล)
ผมเคยอยู่ จว.สงขลา มี สภ.ต.ยกฐานะขึ้นมีอำนาจสอบสวน ไม่เคยมีการมอบสำนวนการสอบสวนที่เกิดก่อน สภ.ใหม่มีอำนาจสอบสวนให้กับ สภ.ใหม่ แต่อย่างใด ผมทำมาเยอะแล้ว และขณะนี้ยังมีบางคดีที่จับกุมได้และไปเบิกความที่ศาลก็ปรากฏว่า สภ.เดิม ทำการสอบสวนผู้ต้องหา ยังไม่มีปัญหาตามที่ถกกันอยู่
ไม่รู้นะ ในความเห็นของผม สภ.ใหม่ พนักงานสอบสวนอาจจะมีอำนาจสอบสวนผู้ต้องหาที่จับกุมทีหลัง แต่ถ้าคิดให้ดีในคดีนั้นพนักงานสอบสวน สภ.ใหม่ ไม่มีอำนาจสอบสวน

[พงส.อาชีพ(อิสานใต้)]

เรียน คุณ"ปวดหัวจริง" /แฟนคลับสอบสวน 599

ข้อ 1. ปฏิบัติจริงไปเลย....ศาลพิพากษาจำคุกไปแล้ว
เท่าที่"อิสานใต้" ปฏิบัติจริง....ดังนี้
...สดๆ ร้อนๆ เช่นกันหลังจากแบ่งเขตอำนาจการสอบสวนใหม่นี้ .ให้สอบถาม...พ.ต.ท.รชศ ญอบ พงส.(สบ 2) สภ.เมือง นม.
................รับคำร้องทุกข์ แต่ไม่ตัดเลขลงสารบบคดีอาญา
คดีทำร้ายร่างกายสาหัส เหตุเกิดที่ ตะวันแดง...สาด...แสง
ต.ในเมือง อ.เมือง จว.นม.
......สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพียงพอยืนยันการกระทำผิดของผู้ต้องหา ออกหมายเรียกตัวผู้ต้องหามาแจ้งข้อกล่าวหา ....ระหว่างสอบสวน .....พิมพ์หน้ารายงานสอบสวนเสร็จ...แบ่งเขตใหม่.....โดยใช้ถนนสืบศิริ เป็นเขต แบ่งเขตอำนาจสอบสวนใหม่
......ตะวันแดง ...สาด...แสง ต.ในเมือง อ.เมือง จว.นม.ท้องที่อยู่ในความรับผิดชอบ ของ สภ.โพธิ์กลาง

......หน.พงส.สภ.เมือง นม. ส่งสำนวนการสอบสวน ให้ หน.สภ.โพธิ์กลาง มอบหมายให้ พ.ต.ท.ธวช สสว พงส.(สบ 3) สภ.โพธิ์กลาง เป็น พงส.ผู้รับผิดชอบ ทำแค่เพียง สรุปสำนวนการสอบสวน ส่งสำนวนการสอบสวนให้อัยการจังหวัด นม. ฟ้องศาลจังหวัดนครราชสีมา ผู้ต้องหา........

..........สรุปได้ว่า..... ณ เวลาที่ต้องทำการสอบสวน...หรือปฏิบัติ...เกี่ยวกับ...กระบวนการสอบสวน...ณ เวลานั้น
พนักงานสอบสวน ท้องที่ ที่เกิด อ้าง เชื่อ .....ว่าเหตุเกิดในท้องที่นั้น ..... เป็นพนักงานสอบสวน ผู้รับผิดชอบ ............

[1000 เวร]

สำนวนการสอบสวนส่งไปยังพนักงานอัยการแล้ว พนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจสอบสวน ให้พนักงานอัยการสั่งดีกว่า ผู้ว่าก็ไม่เกี่ยวเพราะไม่ใช่เรื่องตาม มาตรา 21(เพราะคดีอยู่ที่อัยการแล้ว)กรณีนี้ปฏิบัติตาม ม.143(1)ให้พนักงานสอบสวนส่งผู้ต้องหามาเพื่อฟ้องต่อไป

[บุคคลทั่วไป]

เห็นตรงกับคุณหอยสนามบินเพราะมันมีข้อขัดแย้งกันอยู่เห็นควรให้ส่วนกลาง ตีความเพาะคดีของผมเคยมีปัญหาคือผู้เสียหายอยู่อำเภอๆหนึ่ง ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากพยานอยู่อีกอำเภอหนึ่งว่าจะมีผู้ไปฆ่าผู้เสียหาย จากนั้นผู้เสียหายก็ได้แจ้งความร้องทุกข์ขอให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดซึ่งอยู่ในอำเภอเดียวกับผู้เสียหาย พนักงานสอบสวนที่รับเรื่องไว้ได้ทำการสอบสวนจากนั้นได้ทำหนังสือหารือไปยัง บก.ฯและทาง บก.ฯมีความเห็นให้ส่งเรื่องไปให้ พงส.ทีทางพยานที่แจ้งเรื่องว่ามีผู้ทำร้ายดำเนินการดีนะครับที่พยานกับผู้เสียหายอยู่ใกล้กัน หากทางพยานอยู่คนระทวีปคงจะแย่แต่เมื่อส่งให้ทาง พนักงานอัยการฯก็ไม่มีการตีกลับมาแต่อย่างใด คดีนี้น่าจะเป็นตัวอย่างได้คือให้ทาง บก.ฯเป็นผู้สั่งให้ใครทำเพราะมีอำนาจควบคุมทั้งจังหวัด...ฯ/

[เจดีย์กลางน้ำ]

เรียน คุณ 1000 เวร
ด้วยความเคารพในความเห็นของทุกท่าน แต่ข้าพเจ้าขอแย้งความเห็นของท่าน ที่ว่าให้พนักงานอัยการสั่งสอบสวนเพิ่มเติม เพราะได้ส่งสำนวนการสอบสวนให้พนักงานอัยการแล้ว และเป็นการจัดการให้ได้ตัวผู้ต้องหามาฟ้องนั้น ยังจำเป็นต้องแจ้งพฤติการณ์แห่งคดี แจ้งสิทธิ แจ้งข้อกล่าวหา และสอบสวนผู้ต้องหาในพฤติการณ์แห่งคดี เว้นแต่ผู้ต้องหาไม่ประสงค์จะให้การ การดำเนินการดังกล่าวนี้ไม่จำต้องให้พนักงานอัยการสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติม มิฉะนั้นก็เป็นการขัดต่อ ป.วิ.อาญา เช่นกัน

เรื่องที่ต้องพิจารณว่าท้องที่ใดมีอำนาจการสอบสวน ในทางปฏิบัติจะให้ บก.สั่งก็พอฟังได้ ที่สำคัญ บก.สั่งแล้ว หากไม่เป็นไปตาม ป.วิ.อาญา คือสั่งให้ท้องที่ที่ไม่มีอำนาจสอบสวน ทำการสอบสวน การสอบสวนก็มิชอบอยู่ดี

แต่ถ้าเป็นการแต่งตั้งให้พนักงานสอบสวน จะท้องที่ใดก็แล้วโดยผู้บังคับการสั่งการในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนในจังหวัด ตามที่คุณ หอยสนามบิน ว่า ข้าพเจ้าก็เห็นพ้องด้วย

ความเห็นนี้เป็นความเห็นส่วนตัว หากยังประโยชน์แก่ผู้อ่านบ้าง ขอยกความดีนี้ให้บิดามารดาของข้าพเจ้า หากมีข้อบกพร่องข้าพเจ้าขอรับไว้เพียงผู้เดียว........ขอบคุณ

[กิมจ้อ]

เรียน จขกท

..........อย่าคิดมากครับ สำหรับเรื่องเปลี่ยนแปลงเขตอำนาจความผิดรับชอบ (เขตอำนาจสอบสวน) หรือเขตพื้นปกครองใหม่

..........กรณีของท่านนั้น เมื่อมีประกาศของ ตร.ฯ มีผลใช้บังคับ 26 ต.ค.50 เขตอำนาจเปลี่ยน เขตท้องที่เปลี่ยน พงส.ต้องเปลี่ยนด้วยครับ และเปลี่ยนทันทีที่ประกาศฯ มีผลใช้บังคับ

- คดีใดที่เสร็จสิ้นแล้ว ฟ้องแล้ว - ไม่มีปัญหา

- คดีที่เสร็จสิ้นแล้ว - ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง สภ.เดิม ต้องส่งมอบสำนวนให้ สภ.ใหม่ รวมทั้งหมายจับต้องส่งมอบให้หมดด้วย

- คดีที่อยู่ระหว่างดำเนินการ - ต้องส่งมอบให้ สภ.ใหม่ ทันที
- ไม่ต้องส่งให้ใครตีความ ไม่ต้องให้ใครสั่ง เรื่องเขตอำนาจ ไม่ต้องแต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวน ฯลฯ แต่ สภ.ใหม่ ต้องแนบคำสั่ง ประกาศ ตร.ดังกล่าว ให้อัยการ ไปพร้อมสำนวนการสอบสวนทุกครั้ง (ทุกสำนวนที่รับโอนมา)

..........กรณีของ จขกท สภ.ชะเมา ต้องรับดำเนินการ โดยผลของประกาศของ ตร. ดังกล่าว จะมาอ้างว่า แบ่งเขตทีหลัง.....ข้ออ้างฟังไม่ขึ้น ครับ

...........เชื่อเถอะ............

[เทพธันเดอร์นครปฐม]

หนังสือ ตร.ที่ 0031.212/4733 ลง 17 ตุลาคม 2550 เรื่องการสอบสวนคดีอาญาของ สภ.ต.ที่มีการปรับระดับตำแหน่งหัวหน้าสถานีใหม่เป็น สว.

[เทพธันเดอร์นครปฐม]

ตร.23 เม.ย.2542 โอนอำนาจสอบสวนอุบัติเหตุจราจรทางบกของตำรวจทางหลวงไปเป็นของตำรวจภูธรท้องที่ แต่ 1 พฤษภาคม 2542