ถ้าผมทำอย่างนี้ จะโดนข้อหาอะไร???

[คนขวางโลก]

เรียนถามท่านพงส และนักกฎหมายทุกท่าน ถ้าผมทำแบบนี้ผมจะโดนข้อหาอะไร

ถ้าผมติดป้ายว่า " เงินด่วน โทร.xxxxxxxx "
นาย ร้อนเงิน ก็ติดต่อมา แล้วนัดพบกัน


นายร้อนเงิน : ผมต้องการกู้ซัก 20000 บาท
ผม : ผมไม่ได้ให้กู้หรอก แต่ถ้าคุณต้องการ20000
ผมมีวิธี คุณมีบัตรเครดิตมั๊ยล่ะ ??
นายร้อนเงิน : มีครับ
ผม : งั้นคุณ ใช้บัตรเครดิตของคุณ ไปรูดซื้อ
กล้องวิดิโอ รุ่น XXXX ราคา 27000
เอามาขายให้ผม ผมให้ 20000 บาท
แล้วคุณก็ไปผ่อนส่งกับ บริษัท เจ้าของบัตรเอง

แล้วนายร้อนเงินก็ไปที่ห้างใช้บัตรรูดกล้องมาขายให้ผม
20000 บาท ผมก็จะทำในลักษณะนี้แล้วเอาสินค้านั้นมา
ขายให้เพื่อนฝูง ในที่ทำงาน
คำถามถามว่า ถ้าผมทำแบบที่ว่ามานี้ ผมจะผิดกฎหมายข้อหาอะไร ครับ ????????

( คือผมดูในข่าว มีคนทำแบบนี้ ทำไมตำรวจจับในข้อหา
กู้นอกระบบ เรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา ผมสงสัยว่า ทำไมเป็นเช่นนั้น เรื่องที่ผมยกมาเป็นตัวอย่างนี้ ผมให้กู้ตอนไหน ผมเรียกเอาดอกเบี้ยตอนไหน นายร้อนเงินไปผ่อนจ่ายกับบริษัทเจ้าของบัตร ไม่เกี่ยวกับผมเลย ))

ลิงก์ผู้สนับสนุน Sponsored Links

[สบ๔ อีสาน]

เรื่องนี้แปล สมการ ออกมาก็เท่ากับว่า ผู้ถูกจับ ให้เจ้าของบัตรเครดิตกู้เงินตนเองไป ๒๐,๐๐๐ บาท แล้ว ตัวเองก็ได้รับกล้องไปราคา ๒๗,๐๐๐ บาท เท่ากับได้กำไร (ดอกเี้บี้ย) ทันที ๗,๐๐๐ บาท ถือเป็นการให้กู้ยืมโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา กม.กำหนด แล้วตั้ง ๗,๐๐๐ บาท หัก ณ ที่จ่ายอีกต่างหาก ก็น่าจะเข้าองค์ประกอบ พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินฯ ม.๔ (ก) หรือ (ข) หรือ (ค) ก็ว่าไป ส่วน เจ้าของบัตร (เหยื่อ) ก็จำต้องรับภาระผ่อนชำระหนี้ตามบัตรเครดิตที่ตนเองรูดไปนั่นเอง แต่ไม่ใ่ช่ ผสห.นิตินัย ตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยฯ พงสฯ รับแจ้งความต้องยกเรื่องขึ้นว่ากล่าว เอาความกับ ผู้ถูกจับ....ให้สอบธนาคารชาติ หรือ สาขาตามภูิิืูมิภาค ถึงอัตราดอกเบี้ย....นอกจากนี้ยังมีธุุรกิจอีกอย่างที่แพร่หลายมานานแล้ว
ที่ติดป้ายให้กู้เงินดอกเบี้ยถูกหรือแพงก็แล้วแต่...งานนี้ผิด พ.ร.บ.ธนาคารฯ คือ ตั้งตนเป็นธนาคารเสียเองเลย
หมายเหตุ - กรณีตามกระทู้ น่าจะไม่ใช่การแลกเปลี่ยน หรือ ซื้อของต่ำกว่าทุนแน่ และก็มิใช่ฉ้อโกงด้วย...กม.ตัวเดียวที่จะจัดการกับพวกนี้ได้คือ พ.ร.บ.ดังกล่าว แม้ออกมา ปี ๗๕ แต่ยังคงออกฤทธิ์ ออกอาวุธ ได้นานกว่า ๗๕ ปี แล้ว น่าทึ่ง กม.ฉบับนี้จริง ก้าวล้ำนำกาลเวลา ไม่ล้าสมัย หรือไม่เหมาะสมกับกาลเวลา จึงยังไม่ถูกยกเลิกไปดัง กม.ไดโนเสาร์อื่นๆ อีกบานตะไท....พี่เทพธันเดอร์ อยู่ เมือง คอนถม เมืองใหญ่ น่าจะมีประสบการณ์คดีแบบนี้เล่าสู่น้องๆ ฟังบ้างครับ

[คนขวางโลก]

เรียนท่าน สบ4 อีสาน

กรณีที่ผมยกตัวอย่างมานี้จะเรียกว่า ผมให้กู้ได้ยังไงล่ะครับ
ข้อ 1. ผมแสดงเจตนาบอกแล้วว่า ไม่ได้ให้กู้
แต่ให้รูดเอาของ หรือสินค้าที่ผมระบุรุ่นมา มา
" ขาย" ให้ผม ที่ว่า "ขาย" ก็ ถูกต้ององค์ประกอบ
คือ สินค้ามา เอาเงินไป แล้วผู้ถือบัตรก็ไปผ่อนเอาเอง ถ้าจะว่าผมให้กู้ ทำไมผมไม่ไปทวงเค้าเล่าครับ

ข้อ. 2 สมมุตว่า นายร้อนเงิน พอรูดกล้องมาแล้ว แต่ไม่ขายให้ผม เพราะผมให้ราคาถูกเกินไป ( 20000 ) ก็เลยเอาไปขายให้ อาโกที่อยู่ปากซอย 21000 บาท อย่างนี้ อาโก จะถูกต้องข้อหา ปล่อยกู้เรียกรับดอกเบี้ยเกินอัตรา หรือไม่ครับ

ข้อ.3 ที่ท่านบอกว่า กฎหมายเรียกรับดอกเบี้ยเกินอัตรานี้
ผ่านมา75 ปี ยังอยู่ได้ แสดงว่า ดีว่า ยุติธรรม ไม่เหมือนกฎหมายไดโนเสาอื่นๆที่ถูกยกเลิกไปแล้ว ผมจะแสดงความเห็นดังนี้ครับ
ผมว่ากฎหมายฉบับนี้ จะยังคงมีอยู่อีก 500 ปี
ไม่ใช่เพราะมันดี อะไรหรอกครับ แต่เพราะ จะ
" ไม่มีใคร กล้า แก้มันให้สูงกว่านี้ " เพราะใครก็ตามที่จะแก้ ให้ดอกเบี้ยสูงกว่านี้ จะถูก คนจนทั้งแผ่นดิน ก่นด่า หาว่าเข้าข้าง นายทุน " ทั้งๆที่ในความเป็นจริงแล้ว ดอกเบี้ยตามกฎหมายนี้ ไม่เหมาะสมกับสภาพสังคม มานานแล้ว
คืออัตราดอกเบี้ย ที่ยุติธรรม จริงๆ "กำหนดไม่ได้ หรอกครับ " มันขึ้นกับองค์ประกอบหลายๆอย่าง เช่น
1. จำนวนเงินที่กู้
2. ระยะเวลาที่กู้
3. หลักทรัพย์ที่ค้ำประกัน ว่ามากน้อย แค่ไหน มีหรือไม่มี
4. บุคคลผู้ค้ำประกัน มี หรือ ไม่มี และน่าเชื่อถือเพียงไหน
5. ถ้าเกิดการผิดสัญญา ผู้กู้จะเรียกร้องให้ชดใช้ได้อย่างไร
กฎหมายในขณะนั้น "เข้าข้าง" ฝ่ายไหน
และอื่นๆอีกมากมาย

สมมุติครับ สมมุติว่า ท่านเห็นว่า กฎหมายดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี นี้ ยุติธรรม ลองเอามาให้ผมกู้ ซัก 2000 บาท
ซิครับ ผมขอกู้ 1 เดือน คำนวนดอกเบี้ยแล้วเท่ากับ
25 บาท ท่านเอามั๊ยครับ แล้วลองคิดต่อไปซิว่า
ถ้าถึงกำหนดแล้ว ผมไม่จ่าย ท่านจะทำยังไง ท่านก็ต้องไปฟ้องศาล เพื่อ ให้ศาลสั่งให้ผมจ่ายท่าน 2025 บาท
พอถึงเวลาไปศาลผมก็ไม่ไป เลื่อนซัก 2ครั้ง ศาลก็ตัดสินให้ท่านชนะ สั่งให้ผมจ่าย ท่าน 2025 บาท ผมก็ขอต่อรองว่า ผมยังไม่มีเงิน และรายได้น้อย ขอผ่อนเป็นเดือนละ 500 บาท
ท่านก็ต้องตกลง ( เพราะไม่มีทางเลือก ) พอถึงเวลา
ผมก็จ่ายท่าน ไป 1 เดือน 500 บาท และไม่ส่งอีกเลย
ท่านจะทำไงล่ะ ท่านก็ฟ้องศาลอีกเพื่อบังคับคดี ให้กรมบังคับคดี ไปที่บ้านผมเอา ทรัพย์ ที่ราคา ประมาณ 1525 บาท
มาขายทอดตลาดเอาเงินชดใช้ท่าน

เห็นรึยังครับ ว่า กฎหมายนี้ ยุติธรรมมั๊ย ผมจึงบอกไงว่า
ดอกเบี้ยที่ยุติธรรม จริงๆ กำหนดไม่ได้ เพราะมันต้องขึ้นกับปัจจัย หลายๆอย่าง ที่ผมบอก

[คนขวางโลก]

หรือ ผมขอกู้ท่าน 2000บาท ดอกเบี้ย เดือนละ 25บาท

ทีนี้ผมจ่ายท่านตรงเป๊ะ ไม่เบี้ยวเหมือนตัวอย่างก่อนหน้านี้
แต่มีข้อแม้ว่า ถ้าท่านมาเก็บเงินผมถึงจะจ่าย คือผมไม่ค่อยมีเวลา ท่านต้องเป็นฝ่ายมาเก็บดอกเบี้ยเอง สัญญาเก็บดอกทุกเดือน เดือนละ 25บาท บ้านท่านอยู่ห่างจากบ้านผม
5 ก.ม. พอถึงเดือนท่านก็ขี่รถมาที่บ้านผม ผมก็จ่ายดอกท่านไป 25 บาท แล้วท่านก็ขี่รถกลับบ้าน รวมขี่รถไปกลับ 10 ก.ม

ถามว่า ท่านเอามั๊ยครับ

( เห็นมั๊ย อันนี้เข้ากับ ปัจจัย ข้อ 2. ที่ผมว่า " จำนวนเงินที่กู้ " )

[สบ๔ อีสาน]

ถูกต้องทั้งหมดตามที่คุณขวางโลก แถลง เพราะ กม.นี้ในขณะนั้นดอกเบี้ยถือว่าแพงมากพอตัว เพราะพ่อแม่เคยบอกว่า ตอนผมเกิด ทองคำบาทละ ๔๐๐ บ.เท่านั้นเอง ดัชนีผู้บริโภคขณะนี้ต้องปรับ อัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นเพื่อเป็นธรรมกับฝ่ายเ้จ้าหนี้ด้วย (สอดคล้องกับอัตราโทษตาม ป.อาญา ก็เพิ่มจำนวนบาทให้สอดคล้องกับปี สอดคล้องกับค่าเงิน กักขังแทนค่าปรับ ปี ๙๙ ยัง เป็น ๒๐๐ บาทในไม่กี่ปีมานี้ นี่คือบทบาท สส.ต้องแก้ไขอัตราดอกเบี้ย ตาม กม.เก่าที่ว่าเห็นด้วยอย่างยิ่ง ส่วน ปุจฉาต่อมาที่คุณพยายามอุปมาอุปมัยถึงอาโก กับคุณนั้น เจตนาร้ายเขาไม่มีครับ แต่ของคุณมีแน่ มีแต่ต้นเลย กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนาไง วิธีคิดคุณเป็นนักธุรกิจ การเืมืองได้ดี แต่วิธีการทางจริยธรรม คุณธรรม ต้องลดราวาศอกให้สังคมอยู่ได้
โดยไม่เอาเปรียบกันมากมายนัก....นักเศรษฐศาสตร์ควรคิดหาอัตรา
ดอกเบี้ยที่เหมาะสมให้กับ จน.และ ลน.ด้วย พงสฯ จะได้ไม่ถูกใช้เป็นเครื่องมือของคุณ...และคนอื่นๆ ที่ มองรายไ้ด้เพียงด้านเดียว เศรษฐศาสตร์ มีทั้งกำไร ขาดทุน แต่หากพอเพียงได้ทั้งสองฝ่ายก็อยู่กันได้...ยังมีธุรกิจอีกมากมายที่
เอาเปรียบคนจนเยอะครับ เมื่อเข้าตาจน เขาก็ต้องพึ่ง แต่ให้พองามก็จะอยู่ร่วมกันได้ ตร.ไม่เหนื่อย...อย่างแชร์รถเช่า จะไปด่าว่า เจ้าของรถโลภก็คงไม่ถนัดนัก ถามว่าใครหากรู้ก่อนว่าจะโดนเอารถไปขายแล้วผ่อนเล่มทะเบียน ท่านจะยอมหรือครับ ไม่มีแน่ๆ...แล้ว ตร.เราเองก็เข้าไปยุ่ง ไปเช่า ไปรับไว้ใช้งานทั่วทีปทั่วแดน ภาคใต้ก็มีรถแบบนี้เยอะ...ต้องเอาออกให้หมด เท่ากับสนับสนุนส่งเสริมธุรกิจนี้โดยตรง....ฟังข่าวมาก็พยายามหาทาง
สั่งไม่ฟ้องให้ตัวเอง กับพวก เท่านั้น เชื่อขนมกินได้เลย คนดีต้องเข้ามาเป็น ตร.ครับ ไม่ใช่เอาคนที่คิดหาทางเอาเปรียบ แอ๊คอาร์ทใ้ช้อำนาจขอรถจากร้านโจรพวกนี้มาใช้ในงานราชการฟรีๆ
หมายเหตุ...ทางออกของ ตร.กลุ่มนี้ คือ มีผู้ใจบุญคือแก็งค์โจรซึ่งตัวเองอ้างว่าไม่รู้ ไม่ใช่ โจร ให้รถพวกนี้ไว้ใช่ชั่วคราว เพื่อ ปย.ทางราชการ ก็เท่านั้น ไม่มีเจตนา ตาม ป.อาญา ม.๓๕๗ อนุญาตให้เอาเหตุผลนี้ไปใช้สรุปสำนวนวินัยและทางอาญาได้เลยครับ

[คนขวางโลก]

เรียนท่าน สบ4อีสาน
จากตัวอย่างที่ผมยกมา ท่านวินิจฉัยว่า เป็นการกู้ยืม ซึ่งผมไม่เห็นด้วย อ่ะ ผมขอแปลงโจทย์นิดนึง เป็นว่า

ผมติดป้ายเงินด่วน นายร้อนเงินมาติดต่อ

นายร้อนเงิน : ผมขอกู้ 20000
ผม : ผมไม่ได้ให้กู้ แต่มีวิธี ที่บ้านคุณมี เครื่องใช้ไฟฟ้ามั๊ย
นายร้อนเงิน : มี ผมมีกล้องวิดีโอตัวนึง เพิ่งใช้บัตรเครดิตซื้อมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว 27000
ผม : อ่ะ งั้นดีเลย เอามาให้ผม ผมให้ 20000

แล้วนายร้อนเงิน ก็ไปเอากล้องที่เพิ่งใช้เครดิตการ์ดซื้อมา
27000 มาขายให้ผม 20000 ผมก็เอากล้องนี้ไปขายต่อให้เพื่อนที่ทำงาน 22000 กำไร 2000

อ่ะ แบบนี้ล่ะ ยังจะวินิจฉัยว่า ผมให้กู้อีกมั๊ย ???????


และจากตัวอย่างแรกที่ท่านวินิจฉัยว่า ผมปล่อยกู้ ได้ดอกเกินที่ก.ม.กำหนด รู้ได้ไงว่า ผมได้ดอกเท่าไหร่?????
นายร้อนเงิน ซื้อกล้องมา 27000 ขายให้ผม 20000
ก็มิใช่ว่าผมจะไปขายต่อได้ราคา 27000 ตามราคาที่ซื้อมาแต่แรกนี่ครับ ผมอาจจะไปขายได้เพียง 20100 บาทล่ะ ( ถ้าผมไปขายได้กำไร 100 เดียว ผมยังจะผิดข้อหาปล่อยกู้เรียกดอกเกินก.ม.อีกมั๊ย)

คือ เรื่องของเรื่อง ผมเข้าใจลึกซึ้งดีอยู่แล้วว่า มันเป็นยังไง
เรื่องมันเป็นอย่างนี้ครับท่านสารวัตร ผมจะเล่าให้ฟัง

คือจริงๆแล้ว การติดป้ายเงินด่วนแล้ว พาไปรูดบัตรซื้อสินค้ามาที่ตำรวจจับๆ เป็นข่าวอยู่ทุกวันนี้น่ะ ถ้าในกฎหมายจริงๆแล้ว
มันไม่ใช่การกู้หรอก แต่ที่ตำรวจต้องจับ เพราะมันกระทบกระเทือนเศรษฐกิจของประเทศ คือ ไอ้พวกหน้ามืดไปใช้บริการเงินด่วนแบบนี้น่ะ แทบ100ทั้ง100 เป็นพวก เรียกไงดี
เป็นพวก หมดแล้ว พวก พูดไม่ถูก คือหน้ามืดแล้วน่ะ
แล้วรูดไปก็เป็นหนี้เสีย แน่ๆ แล้วถ้าบัตรเครดิตปล่อยให้มีหนี้เสียมากๆ ก็กระทบกระเทือนไปทั้งระบบ เพราะบริษัทเจ้าของบัตรก็กู้แบงค์ หรือกู้จากประชาชนมาอีกที เลยจะพากันล้มทั้งระบบ
ทางการเค้าก็เลยต้องมา มั่วข้อหา ปล่อยกู้เรียกดอกเกินก.ม.
เอากับ ผู้หากินทางนี้
คือถ้าท่านเป็นนักกฎหมายจริงๆ จะเห็นว่าจริงๆแล้ว
มันไม่ใช่การกู้ ไม่ใช่การเรียกดอกเบี้ย แต่เป็นการ ฉวยโอกาศ มากกว่า แต่กฎหมายเรื่องฉวยโอกาศมันไม่มี เลยมามั่วเอาเป็น กู้เงินเรียกดอกเกิน

[kitttt]

ตั้งชื่อร้านเป็นร้านรับซื้อของเก่าก็น่าจะดีนะ..(ขออนุญาตเรียบร้อย)..ชื่อร้านหัวหมอรับซื้อของเก่า(คุณภาพ 100 เปอร์เซนต์)ให้ราคาดีแน่นอนครับ..รีบด่วนเดียวเงินหมด.

[suvicht]

เห็นด้วยครับ กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา

[ผ่านมาอ่าน]

เห็นกระทู้นี้ของคุณคนขวางโลกนี่เล่น เอาลูกหนี้อย่างผมหงายเลย แบบนี้ต้องให้ กรรมส่อเจตนาแล้วละครับ
ส่วนตัวผมว่า 15% ต่อปีนี้ยังได้อยู่นะครับ ถ้าเรียกดอกระดับ 28% ต่อปีสูงสุดเท่าที่ ธ.แห่งประเทศไทยกำหนด ผมว่าคนจนคงไม่มีโอกาสโงหัวขึ้นมาจากนรกแห่งหนี้แน่ๆ

[enjoy_bic]

มาตั้งกระทู้อย่างนี้อีกน๊ะครับ อ่านแล้วประเทืองปัญญามากๆ เลย ขอบคุณผู้ตั้งและผู้ตอบครับ

[บุคคลทั่วไป]

คำถามของ คนขวางโลก ผมมองว่าไม่เป็นการกู้ตาม พรบ.ไม่เข้าองค์ประกอบเลย ดูตัวบทให้ดี (มตรา ๓ ผู้ใดให้บุคคลอื่นกู้เงิน ...) แต่เป็นการใช้ความเข้มแข็งทางการเงิน บังคับซื้อสินค้าจากคู่สัญญาในราคาต่ำ เพื่อทำกำไร